👨⚕️👩⚕️เปิดรับสมัคร!! รอบติวสดใบประกอบแพทย์ สอบรอบเมษายน 2564 เหลือ 5 ที่สุดท้ายเท่านั้น
**เริ่มเรียน 1 กุมภาพันธ์ 2564 (ลงทะเบียนภายใน 15 มกราคม 2564)
Add Line Click! รอบ Update เนื้อหา NL-1 เดือน มกราคม 64 (จองตารางเรียน คลิ๊กที่นี่ ) 👨⚕️ 👩⚕️
🗓️ตารางเรียน Course NL-1 ติวสอบใบประกอบแพทย์ ปี 2564
รอบ สิงหาคม 63 เต็ม ❌
รอบ กันยายน 63 เต็ม ❌
รอบ ตุลาคม 63 เต็ม ❌
รอบ พฤศจิกายน 63 เต็ม❌
รอบ ธันวาคม 63 เต็ม ❌
รอบ มกราคม 64 เต็ม ❌
รอบ กุมภาพันธ์ 64 ว่าง 1 ที่ ✅
รอบ มีนาคม 64 ว่าง 2 ที่ ✅
ตัวอย่าง ข้อสอบ NL-1 รอบ กันยายน2563
Question : 35 year old woman diagnosed with RAhas been taking high dose prednisone for 6 months then stopped without tapering dose. Which lab finding most likely?
A.High cortisol
B.hyperkalemia
C.high ACTH
D.hyperglycemia
รับติวสอบใบประกอบแพทย์
ประกอบด้วย NL-1 Course Planning เนื่องจาก NL-1 เป็นการสอบเฉพาะของแพทย์สภาซึ่งแตกต่างจากเนื้อหาชั้น clinic ที่มหาวิทยาลัยออกคอร์สติวจึงสำคัญ
1. คอร์สเรียนเนื้อหาปรับพื้นฐาน NL-1 (B1-B11) เฉพาะนิสิตที่พื้นฐานไม่ดี
2. คอร์สเฉลยข้อสอบ NL-1 Update ข้อสอบทุกรอบ
3.Special Intensive ติวสอบใบประกอบเฉพาะบทที่นิสิตได้คะแนนไม่ถึง 50% เจาะจากโจทย์ไปเนื้อหา
คอร์สติว NL-1 ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 60 ชั่วโมง (เป็นการเรียนสดกับอาจารย์หมอตัวต่อตัว)
สำหรับนักศึกษาแพทย์ทุกสถาบันและทุกชั้นปีทั้งในประเทศไทยและหลักสูตรต่างประเทศ
โดยอาจารย์แพทย์ผู้มีเปอร์เซ็นไทล์ 97 ของประเทศ
สัดส่วนคะแนนในการที่จะสอบผ่าน NL-1 ต้องได้มากกว่า 159/300 ขึ้นไป
เป็นการติวในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งการสอบประกอบด้วย 3 ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนมีจุดประสงค์ดังนี้ (สอบใบประกอบแพทย์/NL-1)
โดยการสอบจะจัดสอบ NL-1 , NL-2 และ NL-3 โดยแพทย์สภา สอบ 2 รอบต่อปี ติดตามข้อมูลการสอบใบประกอบแพทย์ได้ที่ https://cmathai.org
- การติวสอบเพื่อประเมินความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน จำนวน 300 ข้อ (NL-1)
- การติวสอบเพื่อประเมินความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก จำนวน 300 ข้อ (NL-2)
- การติวสอบเพื่อประเมินทักษะ และหัตถการทางคลินิก ประกอบด้วย OSCE MEQ Longcase (NL-3)
ตัวอย่างผลงานความสำเร็จ
สำหรับผู้ที่กำลังศึกษา/สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในสถาบันการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ ที่แพทยสภารับรอง
การสมัครสอบใบประกอบแพทย์(ศรว)
ผู้มีความประสงค์จะขอรับการประเมินต้องดำเนินการต่อไปนี้
- ยื่นใบสมัครต่อศูนย์ประเมิน และรับรองความรู้ ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ศูนย์ฯ จะประกาศในแต่ละปี
- ชำระค่าสมัครสอบตามอัตราที่กำหนดในประกาศของศูนย์ฯ ซึ่งศูนย์ฯ จะไม่คืนเงินค่าสมัครให้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
.
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัคร
ผู้มีสิทธิ์ขอรับการประเมินจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้สำหรับการเป็นสมาชิกแพทยสภา และคุณสมบัติอื่นดังนี้
- ประเภทที่หนึ่ง เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย หรือในต่างประเทศที่แพทยสภารับรอง
- ประเภทที่สอง เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และได้รับปริญญาบัตรจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยที่แพทยสภารับรอง
- ประเภทที่สาม เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และได้รับปริญญาบัตรจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศที่แพทยสภารับรอง
.
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับการสอบแต่ละขั้นตอน
- การสอบขั้นตอนที่หนึ่ง เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติประเภทที่หนึ่ง หรือสอง หรือสาม สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติประเภทหนึ่งต้องมีใบรับรองจากสถานศึกษาว่าได้ศึกษาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ระดับปรีคลินิก) หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีการศึกษา นับถึงวันที่กำหนดสอบฯ โดยได้ศึกษาครบทุกรายวิชาตามหลักสูตรระดับปรีคลินิกของสถาบันที่แพทยสภารับรอง
- การสอบขั้นตอนที่สอง เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติประเภทที่หนึ่ง หรือสอง หรือสาม สำหรับผู้มีคุณสมบัติประเภทหนึ่งต้องมีใบรับรองจากสถานการศึกษาว่าได้ศึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ระดับคลินิก) มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีการศึกษา นับถึงวันที่กำหนดสอบฯ โดยได้ศึกษาครบทุกรายวิชาตามหลักสูตรระดับคลินิกของสถาบันที่แพทยสภารับรอง
- การสอบขั้นตอนที่สาม เป็นผู้ที่สอบผ่านขั้นตอนที่หนึ่ง และขั้นตอนที่สองแล้ว โดยแต่ละขั้นตอนสอบผ่านมาแล้วเป็นเวลาไม่เกินเจ็ดปี นับจากวันที่แพทยสภาอนุมัติผลการสอบจนถึงวันที่ยื่นใบสมัครสอบ ถ้าขั้นตอนใดสอบผ่านเกินเจ็ดปีจะต้องสอบขั้นตอนนั้นใหม่ให้ผ่านก่อน
สำหรับผู้มีคุณสมบัติประเภทที่หนึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศไทยต้องมีใบรับรองจากสถานการศึกษาว่าได้ศึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก (ระดับคลินิก) มาแล้ว ไม่น้อยกว่าห้าภาคการศึกษาระบบทวิภาคหรือเทียบเท่าด้วย นับถึงวันกำหนดสอบ โดยได้ศึกษาครบทุกรายวิชาตามหลักสูตรระดับคลินิกของสถาบันที่แพทยสภารับรอง
สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติประเภทที่สามจะต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในต่างประเทศซึ่งแพทยสภารับรองใบอนุญาตนั้น หากเป็นผู้มีสัญชาติไทยไม่จำเป็นต้องมีในอนุญาตดังกล่าว แต่ต้องมีเอกสารรับรองการปฏิบัติงานหลังปริญญาในฐานะแพทย์ฝึกหัด หรือเทียบเท่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีในสถาบันการแพทย์ต่างประเทศ หรือในประเทศไทยที่แพทยสภารับรองโดยการปฏิบัติงานจะต้องเสร็จสิ้นก่อนสมัครสอบ
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร : www.cmathai.org